10 อันดับแบรนด์เนมไฮเอนด์ (Hi-End) ไหน!? ไฮโซสุด!!

Last updated: 4 Jan 2020  |  242666 Views  | 

10 อันดับแบรนด์เนมไฮเอนด์ (Hi-End) ไหน!? ไฮโซสุด!!


เหล่าแบรนด์ไฮเอนด์ (Hi-End) แค่ชื่อก็ฟังดูโก้หรูแล้วใครใช้แบรนด์ในคลาสนี้ต่างยิ่งดูไฮโซ เพราะนอกจากราคาที่สูงแล้ว ยังต้องมีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก แต่ในหมู่แบรนด์ไฮเอนด์ ยังมีการจัดลำดับสูงต่ำกันอยู่ด้วย แน่นอนว่าไม่ได้พูดถึงมูลค่าทางการตลาดของแต่ละแบรนด์ หากแต่พูดถึงความเลอค่า น่าหลงใหลสะสมในแบรนด์เนมเป็นที่สุด จะควักตังเสียเงินก้อนทั้งทีก็ควรดูให้ดีว่าพอใจในกระเป๋าแบรนด์เนมไหนที่สุด หรือจะอวดโฉมแบรนด์ไหนไปประชันแบรนด์ไหนไม่ให้น้อยหน้า...


อันดับที่ 10 … 

Burberry (เบอร์เบอรี่)


แบรนด์เนมสัญชาติอังกฤษที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 163 ปี มีชื่อเสียงจากการทำเสื้อโค้ทและเครื่องหนังมากเป็นร้อยปี คงความหรูหรามีระดับสไตล์อังกฤษ ทว่าหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดในรอบ 20 ปี ทั้งโลโก้แบรนด์ ทั้งซิกเนเจอร์ลายโมโนแกรมคลาสสิค ก้าวผ่านความคลาสสิคไปสู่ความโมเดิร์น  ก็ทำให้คุ้นเคยกันมากขึ้นติดตามากยิ่งขึ้น มีเสียงตอบรับทั้งทางบวกที่บอกว่าสวยดูดี แต่ก็มีเสียงบอกกลับมาว่าทำให้ความหรูหราของแบรนด์ลดระดับลง แม้จะทำให้จับต้องได้ง่ายทันสมัยขึ้นแต่นั้นก็ต้องแลกมากับภาพลักษณ์ความเป็นไฮเอนด์ (Hi-End) ของแบรนด์ไป 


อันดับที่ 9 … 

Chloé (โคลเอ)


แบรนด์เนมที่แม้จะไม่ได้มีประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นร้อยปี แต่ก็ครองใจสาวกแบรนด์เนมด้วยเอกลักษณ์ความเป็นสาวหวานวินเทจ แต่โคลเอในยุคปัจจุบันก็ไม่ได้มีดีแค่ความเป็นสาวน้อยวินเทจอีกต่อไป ผสมผสานความเป็นเฟมินีนและนำสมัยขึ้น มีทั้งความเท่ มีอิสระ เรียบหรูดูแพง เป็นที่รู้จักมากขึ้น และมีกระเป๋าหลายใบเป็นที่รู้จักอย่างกระเป๋ารุ่น Tess (เทสส์) ที่โดดเด่นด้วย เครื่องประดับทรง “O” ที่ห้อยอยู่ด้านหน้า พร้อมสายหนังโค้งรอบกระเป๋า ซึ่งเป็นกระเป๋าอีกใบที่ถูกนำกลับมาทำใหม่ และเป็นที่พูดถึง แต่ถึงอย่างไรอาจเป็นเพราะประวัติศาสตร์ไม่ได้ยาวนาน หรือเพราะความเป็นวินเทจที่ไม่ได้เน้นสินค้าแนวลายโลโก้ ทำให้คนรู้จักน้อยกว่าแบรนด์อื่นทำให้ตกมาอยู่ในลำดับนี้


อันดับที่ 8 …

 Fendi (เฟนดิ)


เฟนดิ อีกหนึ่งแบรนด์เนมจากอิตาลี่ หนึ่งในแบรนด์ที่มีประวัติยาวนานมากแบรนด์หนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้เข้าร่วมในกลุ่มของสมาชิก LVMH (Moet Hennessy - Louis Vuitton) กระเป๋าของเฟนดิเอาชนะใจสาวกแบรนด์เนมได้ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นหรูหราอย่างมีเอกลักษณ์ อย่างไลน์ของ PEEKABOO ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร สร้างภาพจำสินค้าแบรนด์เนมเฟนดิได้อย่างดี และการใช้ขนสัตว์มาทำกระเป๋ากระทั้งสัญลักษณ์โลโก้ FF ที่ทำเป็นลายโมโนแกรม แต่อาจไม่ได้รู้สึกไฮเอนด์ (Hi-End) เท่าอันดับบนๆ ที่คนรู้จักอย่างกว้างขวางมากกว่า


อันดับที่ 6(ร่วม) …

Gucci (กุชชี่)


แบรนด์เนมสัญชาติอิตาลี่อีกเจ้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากและเติบโตในช่วงปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะฝั่งเอเชียเราในประเทศไทย และจีนจะนิยมกันมาก เราจะได้เห็นลายโมโนแกรม ”GG” ของกุชชี่กันจนชินตา หรือจะเป็นกระเป๋าถือ Gucci GG Marmont กระเป๋าถือใบหรูที่ได้รับความนิยม อย่างมากตกแต่งด้วย โลโก้ GG เป็นเครื่องประดับหลักดูโด่ดเด่นกว่าใคร เป็นกระเป๋าทรง boy ที่ให้ความรู้สึกนุ่ม ผ่อนคลาย หรูหรา ไฮเอนด์ หรือจะเป็นบรรดาการจับสิงสาราสัตว์ใส่เข้าในสินค้าได้อย่างลงตัว สวยแพง ที่เป็นที่รู้จักก็อย่าง เข็มขัดกุชชี่ เข็มขัดงูที่เคยมีวลีเด็ดจากเพลงในไทยอย่าง Gucci Belt “งูมันเลื้อยมาอยู่ที่เอว” ที่ทำเอาเป็นที่รู้จักอยู่พักหนึ่ง แต่ยังไงก็ตามเพราะมีช่วงเซลลดราคา ทำให้มูลค่าหรือ Value ดูตกลงมา สูสีกินไม่ลงไปกับ ปราด้า จากประเทศเดียวกัน


อันดับที่ 6(ร่วม) …

Prada (ปราด้า)


ปราด้า แบรนด์เนมสัญชาติอิตาลี่ ที่เติบโตมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโดดเด่นไม่แพ้ใคร หลายคนอาจติดภาพแบรนด์จากสีดำเรียบหรูที่โด่ดเด่นที่สุดจากการใช้วัสดุผ้าไนลอน กับการออกแบบดีไซส์คลาสสิค สไตล์อิตาลี่ อีกทั้งยังมีรุ่นที่ฮิตที่สุด Prada Saffiano ที่ผ่านกรรมวิธีผ่านความร้อนทำให้หนังทนทาน ไม่จำเป็นต้องดูแลมากทำให้ถูกใจสาวกแบรนด์เนมทั้งหลาย ตอบโจทย์ได้ทั้งสวยหรูและทนทาน แถมเป็นที่ถูกอกถูกใจชาวประชาฝั่งยุโรปเป็นส่วนมาก แต่เพราะมีช่วงเซลลดราคา ทำให้มูลค่าหรือ Value ดูตกลงมา สูสีกินไม่ลงไปกับ กุชชี่ จากประเทศเดียวกัน



อันดับที่ 5 … 

Christian Dior (คริสเตียน ดิออร์)


แบรนด์เนมสัญชาติฝรั่งเศสแม้จะไม่คุ้นตาเท่าอันดับบนๆ แต่แบรน์คริสเตียน ดิออร์ หรือที่เรียกสั้นๆติดปากกันว่า ดิออร์ นั้นก็มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานตีคู่กันมากับชาแนล ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือดีไซส์นั้นหรูหราพรีเมี่ยมแบบไม่จำเป็นต้องพูดถึง โดยเฉพาะกระเป๋ารุ่น Lady Dior ที่ตั้งชื่อตามเจ้าหญิงไดอาน่า ที่ทำให้วงการแบรนด์เนมต่างคลั่งไคล้แทบระเบิดกันสุดๆ ฮิตไม่มีตกเทรน ทำให้สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นคุณผู้หญิง(Lady) Dior กันไปตามๆ กัน


อันดับที่ 4... 

 Louis Vuitton (หลุยส์วิคตอง) 


แบรนด์เนมไฮเอนด์ (Hi-End) ที่ไม่มีใครไม่เคยเห็น เจ้าของส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในวงการแบรนด์เนม ไม่ว่าจะคนในหรือคนนอกวงการแบรนด์เนมต่างเคยเห็นหลุยส์วิคตองผ่านตามาแล้วทั้งนั้น เพราะนับว่าเป็นแบรนด์เนมที่คนไทยนิยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะว่ามีหลากหลายรุ่นย่อยตั้งแต่หลักหมื่นนิดๆ ที่ทำให้ไม่ว่าใครก็จับต้องได้ หรือตัว Limited ที่มีราคาสูงถึงหลักล้าน ทำให้ลายโมโนแกรม(Monogram) เป็นที่คุ้นตาผู้คนเป็นที่สุด แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้หลุยส์วิคตองลดความไฮโซพรีเมี่ยมของตัวเองลง เพราะนโยบายการตลาดที่แข็งแกร่ง “ไม่มีการลดราคาสินค้าลง” มีแต่จะปรับราคาเพิ่มขึ้นทุกปี ถ้าใครอยากหาของลดราคาคงต้องดูแบรนด์เนมมือสองจากร้านมือสองอย่างเดียวเท่านั้น





อันดับที่ 3 … 

Goyard (กอยาร์ด)


หนึ่งในแบรนด์เนมที่เหมือนป่ามายาอันลึกลับเก่าแก่กว่า 200 ปี แบรนด์เนมที่แตกต่างจาก Louis Vuitton ที่เน้นทำการตลาดอย่างสุดขั่ว เพราะจุดขายของแบรนด์สุดไฮเอนด์ (Hi-End) แบรนด์นี้นั้นคือความขลังลึกลับเข้าถึงได้ยาก พิสูนจ์ได้จากหนึ่งในบทสัมภาษณ์ที่ว่า “ความหรูหราคือความฝัน” ด้วยความที่ไม่มีการทำแผนการตลาด และน้อยครั้งที่จะทำไลน์สินค้าสำหรับขายลูกค้าสาวกแบรนด์เนมทั่วๆไป ไม่มีพรีเซนเตอร์ มีเพียงแค่เหล่าลูกค้าก็สามารถพิสูนจ์ความไฮเอนด์ ของแบรนด์ได้แล้วทั้ง Coco Chanel ผู้ก่อตั้งชาแนล Sir Arthur Conan Doyle นักเขียนเชอร์ล็อคโฮล์มที่โด่งดัง และยังมีอีกหลายคนที่เพียงแค่เอ่ยชื่อ สาวกแบรนด์เนมหรือคนธรรมดายังต้องรู้จาก ไม่ต้องพูดถึงว่าบุคคลระดับพวกเขา เลือกที่จะใช้กระเป๋าของดีมีคุณภาพแน่นอน แต่น่าเสียดายที่เพราะการตลาดของกอยาร์ดที่ไม่เน้นทำการตลาด ทำให้ความไฮเอนด์ รู้จักน้อยกว่ามูลค่าจริงไป



อันดับที่ 2… 

Chanel (ชาแนล)


แบรนด์หรูหราที่ไม่ค้านสายตาใคร ไม่จำเป็นต้องพูดถึงกรรมวิธีการผลิต เรื่องราคา หรือประวัติศาสตร์อันยาวนาน ชาแนล คือหนึ่งในแบรนด์ที่สาวกแบรนด์เนมต่างเทใจใฝ่ฝันอยากครอบครอง ไม่ว่าจะเป็น Chanel Classic หรือ Chanel Boy ที่เป็นที่คลั่งไคลกันมากที่สุดในข่วงนี้ ด้วยรูปลักษณ์และการทำการตลาดที่ไม่เน้นแฟชั่นจ๋ามีหลากหลายรุ่น แต่เน้นความเรียบหรูมีระดับ ทำให้สาวกเทใจยกขึ้นหิ้งกันไม่ยาก จับมาซื้อติดบ้านเอาไว้ใบสองใบนับว่าไม่เกินเลยไป



อันดับ 1... 

Hermès(แอร์เมส)


ไม่มีแบรนด์ใดเลอค่าไปกว่า แอร์เมส นี้คือสิ่งที่สาวกแบรนด์เนมต่างคิดในใจเป็นเสียงเดียวกัน นอกจากกระบวนการผลิตความปราณีตในการตัดเย็บกระเป๋าแต่ละใบ ราคาที่ไม่มีต่ำกว่าหลักแสน สิ่งที่ทำให้ตัวแบรนด์ยิ่งดูไฮโซมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเทคนิคการตลาด เพราะเป็นเพียงแบรนด์เดียวที่นอกจากคัดเลือกวัตถุดิบชั้นเลิศในการผลิตกระเป๋าตลอดไปจนถึงกรรมวิธีการผลิต แอร์เมสยังคัดเฉพาะลูกค้าชั้นเลิศเท่านั้นอีกด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการชื้อสองรุ่นยอดฮิตอย่าง Kelly และ Birkin คงต้องเหนื่อยสักหน่อยหากต้องการสินค้าจาก Shop ทำให้คว้าแชมป์ไปครองในการจัดอันดับแบรนด์เนมครั้งนี้ แต่ถ้าสนใจและไม่อยากลำบากขนาดนั้นคงพึ่งร้านแบรนด์เนมมือสองเพื่อหวังครอบครอง



เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 10 อันดับ Ranking แบรนด์เนมไฮเอนด์ (Hi-end) ไหนไฮโซสุด มีแบรนด์ไหนเป็นแบรนด์โปรดของคุณกันบ้าง บางคนอาจจะถูกอกถูกใจ หรืออาจจะมีบางคนไม่เห็นด้วยก็ลองมาเล่าสู่กันฟังได้ เพราะเอาเข้าจริงนี่เป็นเพียงความคิดเห็นในมุมมองของเรา Moppet Brandname ซึ่งไม่ได้มีเกณฑ์เด่นชัดหรือตัวเลขชี้วัดขนาดนั้น หากแต่เป็นเพียงความรู้สึกที่มีต่อแบรนด์เท่านั้น และยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ไม่ได้ถูกนำมาเปรียบเทียบ ไม่ว่าจะเป็น  Michael Kors (ไมเคิล คอร์ส) Givenchy (จีวองชี) Balenciaga (บาเลนเซียก้า) Cèline (เซลีน) และอื่นๆอีกหลากหลายแบรนด์


จะเห็นว่าหลายๆ แบรนด์ ความไฮเอนด์ (Hi-End) ของแบรนด์ไม่ได้เกิดจากสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการใช้แผนการตลาดในการยกระดับแบรนด์ตัวเองให้ดูมีเรื่องราว อย่างแชมป์ของเราคราวนี้อย่าง Hermès(แอร์เมส) ที่มีแผนการตลาดในการคัดเลือกลูกค้าโดยไม่ปล่อยออกมาให้เชยชมกันง่ายๆ ทำให้ดูมีเรื่องราว ทำให้สาวกแบรนด์นี้ต้องไขว่คว้าเอา ด้วยเรื่องราวนี้เองทำให้เกิดความเลอค่าในตัวกระเป๋าแบรนด์เนมแบรนด์นี้ มากกว่ามูลค่าจริงๆ ของกระเป๋าเสียอีก

This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy  ,  Cookies Policy